ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของระบบนิเวศไม่ว่าจะเป็นระบบทางกายภาพ เคมี หรือ ชีวภาพ ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์กันอย่างซับซ้อนเพื่อให้เกิดความสมดุลทางธรรมชาติ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศน์ย่อมเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมา ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นถ้าหากมีการนำเอาทรัพยากรธรรมชาติไปใช้โดยปราศจากการวางแผนและการจัดการที่เหมาะสมแล้ว ย่อมส่งผลกระทบถึงสิ่งแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียงและบริเวณที่อยู่ห่างออกไปด้วย
ในทำนองเดียวกัน ถ้ามีการพัฒนาบริเวณชายฝั่งทะเลเพื่อใช้พื้นที่ดินเปรี้ยวจัด หรือดินเค็ม โดยไม่มีแผนการพัฒนาที่เหมาะสมแล้ว ผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณรอบข้างย่อมเกิดขึ้นการปรับปรุงพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อใช้ในการปลูกข้าว หรือใช้ทำนากุ้ง ทำให้สูญเสียพื้นที่อันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์จำนวนมากมายหลายชนิดในพื้นที่ป่าชายเลนเดิมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตะกอนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารตามธรรมชาติของสัตว์น้ำบริเวณนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของน้ำ ตลอดจนทำให้ระบบนิเวศน์ของป่าชายเลนเกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อการเพาะเลี้ยงชายฝั่งบริเวณใกล้เคียง ยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงของสารไพไรท์ทำให้ดินกลายเป็นดินเปรี้ยวจัดเกิดสารพิษต่างๆ ใช้ปลูกข้าวไม่ได้ หรือทำให้คุณภาพน้ำและดินเสื่อมโทรม จนทำให้ผลผลิตของกุ้งที่เลี้ยงลดลงอย่างลวดเร็ว
สภาพของป่าชายเลนตามธรรมชาติ มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีพืชพรรณหลากหลายชนิด การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวอย่างไม่รอบคอบและไม่ระมัดระวังทำให้เกิดเป็นดินเปรี้ยวจัด พืชพรรณ และสัตว์เลี้ยงนานาชนิดเสียหายเสื่อมโทรม ทำให้เกิดการสูญเสียความสวยงามที่มีอยู่ตามธรรมชาติไปอย่างสิ้นเชิง ในที่สุดทำให้พื้นที่ดินถูกทอดทิ้งเป็นที่รกร้างว่างเปล่า สูญเสียประโยชน์ไปอย่างมหาศาล
การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดทำให้เกิดมลภาวะของน้ำ น้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดจะไม่สามารถนำไปใช้ในการอุปโภคหรือใช้ในการเกษตรได้ต้องมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำ สิ้นค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งเกิดผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ เนื่องจากความเป็นกรดและสารพิษในน้ำนอกจากนั้นยังมีผลต่อคุณภาพของน้ำใต้ดินอันเป็นผลมาจากการชะล้างกรดและสารพิษสู่ระบบน้ำใต้ดิน ทำให้น้ำมีคุณภาพเลวไม่เหมาะที่จะนำมาใช้อุปโภคหรือบริโภค