M32

ลักษณะและสมบัติของดิน
ดินตื้นที่พบชั้นหินพื้นภายในความลึก  50  ซม. จากผิวดิน 
เกิดจากเคลื่อนย้ายหรือเกิดอยู่กับที่  พบในสภาพพื้นที่ปลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยถึงเป็นเนินเขา  พบในเขตที่มีฝนตกชุก  เนื้อดินเป็นดินร่วนปนเศษหินมากหรือมีเศษหินมากกว่าร้อยละ 35  โดยปริมาตร  อาจจะมีหินพื้นโผล่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปที่บริเวณผิวหน้าดิน  ดินมีสีน้ำตาล  สีเหลืองหรือสีแดง  การระบายน้ำดี  ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกลาง

ชุดดินที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ชุดดินห้วยยอด (Ho) ชุดดินคลองเต็ง (Klt) ชุดดินระนอง (Rg) และชุดดินยี่งอ (Yg)

ข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน

มีชั้นหินพื้นอยู่ตื้น  และมีเศษหินและหินพื้นโผล่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปที่บริเวณผิดหน้าดิน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเกษตรกรรมและการเจริญเติบโตของพืช

ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ  ขาดแคลนน้ำ  และในพื้นที่ที่มีความลาดชันสูงมากจะเกิดการชะล้างทลายสูญเสียหน้าดินรุนแรงมาก  เกิดพื้นที่หินโผล่  พืชไม่สามารถขึ้นได้

ความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช

ดินในกลุ่มนี้ไม่เหมาะสมในการปลูกพืชเศรษฐกิจทุกชนิด เนื่องจากเป็นดินตื้น และมีกรวดและเศษหินปะปนในดิน  สภาพภูมิประเทศมีความลาดชันสูง

เหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์  ในพื้นที่ที่มีความลาดชันน้อยและพื้นที่เสี่ยงต่อระบบนิเวศ ควรสงวนและฟื้นฟูสภาพป่า

ไม่ค่อยเหมาะสมในการปลูกพืชเศรษฐกิจทุกชนิด  เนื่องจากเป็นดินตื้น และมีกรวดและเศษหินปะปนในดิน  สภาพภูมิประเทศมีความลาดชันสูง  แต่ถ้ามีการพัฒนาหรือการจัดการที่เหมาะสม  ก็ใช้ปลูกพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ  เช่น ยางพารา ไม้ผลบางชนิดและพืชไร่บางชนิดได้

แนวทางการจัดการ

ในพื้นที่ที่มีเศษหินหรือพื้นโผล่มาก  ไม่เหมาะสมต่อการเกษตร  ควรใช้ปลูกไม้ใช้สอยโตเร็วหรือสร้างสวนป่า  และหลีกเลี่ยงการใช้พื้นที่ที่มีความลาดชันสูงเพราะว่าเมื่อหน้าดินสูญหายจะทำให้หินพื้นโผล่  พืชขึ้นไม่ได้  จึงควรสงวนไว้ให้เป็นป่าหรือในพื้นที่ทิ้งร้าง  ควรสร้างสวนป่า

การปลูกพืชไร่หรือพืชผัก

เลือกใช้พื้นที่ที่มีหน้าดินหนามากกว่า  25  ซม.  และไม่มีเศษหินหรือหินพื้นโผล่ 
และทำการไถพรวนน้อยที่สุด

เลือกชนิดพืชที่ใช้ปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพของดินและสภาพพื้นที่  และควร
มีการจัดระบบการปลูกพืชหมุนเวียนตลอดทั้งปี  โดยมีการปลูกพืชบำรุงดินร่วมอยู่ด้วย

ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 3-4 ตัน/ไร่  หรือหว่านเมล็ดถั่วพร้า
อัตรา 10-12 กก./ไร่  เมล็ดถั่วพุ่มอัตรา 8-10  กก./ไร่   หรือปอเทืองอัตรา 5-8 กก.ไร่ ไถกลบระยะออกดอก  ปล่อยไว้  1-2  สัปดาห์  ก่อนปลูกพืชไร่ หรือพืชผัก

ใส่ปุ๋ยเคมีให้เหมาะสมตามชนิดพืชที่ปลูก  ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์น้ำ พด.2 และ
ผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด.3 และพด.7

มีระบบการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมตามสภาพพื้นที่ เช่น ไถพรวนและปลูก
พืชตามแนวระดับ  ปลูกพืชปุ๋ยสด  วัสดุคลุมดิน  ปลูกพืชหมุนเวียน  ปลูกพืชสลับเป็นแถบ  ทำแนวรั้วหญ้าแฝก เป็นต้น 

พัฒนาแหล่งน้ำและจัดระบบการชลประทานและระบบการให้น้ำในพื้นที่ปลูก

การปลูกไม้ผล หรือไม้ยืนต้น

เลือกใช้พื้นที่ที่มีหน้าดินหนามากกว่า  25  ซม.  และไม่มีเศษหินหรือหินพื้นโผล่  และทำการไถพรวนน้อยที่สุด
เลือกชนิดพืชที่ใช้ปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพของดินและสภาพพื้นที่
ขุดหลุมปลูกขนาด  50x50x50 ซม. หรือถึงชั้นดิน ปรับปรุงหลุมปลูกด้วยหน้าดินที่ไม่มีเศษหินหรือก้อนหิน  ร่วมกับการใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 50 กก./หลุม  และใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ พด.2  ร่วมกับปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูก

มีไม้ค้ำยันเมื่อไม้ผลมีขนาดใหญ่ขึ้น  และเอาหน้าดินใกล้เคียงมาผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกพูนโคนอยู่เป็นประจำ  เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง  ทำให้ไม่ล้มง่าย

มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ  โดยวิธีกล และวิธีพืช  ที่เหมาะสมตามสภาพพื้นที่ 
พัฒนาแหล่งน้ำชลประทาน และจัดระบบการให้น้ำ