หน้าแรก > การจัดการดิน > แนวทางการจัดการดิน

การจัดการดิน

 


M5

ลักษณะดินและสมบัติของดิน
ดินเหนียวสีเทาลึกถึงลึกมากที่เกิดจากตะกอนน้ำ  พบในสภาพพื้นที่ราบเรียบถึงค่อนข้างเรียบ  เนื้อดินเป็นดินเหนียว  การระบายน้ำเลวถึงค่อนข้างเลว  ดินบนสีน้ำตาลหรือสีเทา  ดินล่างมีสีเทา  มีจุดประสีน้ำตาล  สีเหลืองหรือสีแดงของศิลาแลงอ่อน  บางแห่งมีก้อนสารเคมีสะสมของพวกเหล็กหรือแมงกานีสปะปนอยู่ด้วย  ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำถึงปานกลาง  ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงเป็นกรดจัด  ความอุดมสมบูรณ์ต่ำและมักมีน้ำท่วมขังในฤดูฝน ชุดดินที่อยู่ในกลุ่มนี้  ได้แก่  ชุดดินบางนารา (Ba)  ชุดดินเชียงราย  (Cr)  ชุดดินสุไหงโกลก  (Gk)  ชุดดินแกลง   (Kl)  ชุดดินคลองขุด  (Kut)  ชุดดินมโนรมย์  (Mn)  ชุดดินนครพนม  (Nn)  ชุดดินปากท่อ  (Pth)  ชุดดินพะวง  (Paw)  ชุดดินพัทลุง  (Ptl)  ชุดดินสตูล  (Stu)  ชุดดินท่าศาลา  (Tsl)  และชุดดินวังตง  (Wat) 

ข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ดินมีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ  บางพื้นที่ดินเป็นกรดจัดมาก  มีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง  และมีน้ำไหลบ่าท่วมขังในฤดูฝน  ทำความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง


ความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช
ดินในกลุ่มนี้เหมาะสมที่จะใช้ทำนาในช่วงฤดูฝนและสามารถปลูกพืชไร่  พืชผัก หรือพืชอื่นๆที่มีอายุสั้นในช่วงก่อนและหลังเก็บเกี่ยวข้าว  ถ้ามีแหล่งน้ำเพียงพอหรืออยู่ในเขตชลประทาน
สภาพโดยธรรมชาติ  มาเหมาะสมสำหรับ  การปลูกพืชไร่  ไม้ผล  ไม้ยืนต้นและพืชผักต่างๆ  แต่หากต้องการนำมาใช้  จำเป็นต้องมีการพัฒนาพื้นที่อย่างเหมาะสม  โดยการยกร่อง  มีระบบป้องกันน้ำท่วม  ปรับปรุงดิน  และอาจใช้วัสดุปูนเล็กน้อยสำหรับพืชที่ไม่ชอบดินกรด


แนวทางการจัดการดิน
ปลูกข้าว
เตรียมพื้นที่ปลูกโดยไถพรวนในขณะที่ดินมีความชื้นที่เหมาะสม ปรับปรุงบำรุงดินโดยไถกลบต่อซัง  ปล่อยไว้ 3-4  สัปดาห์หรือไถกลบพืชปุ๋ยสด( หว่านโสนอัฟริกันหรือโสนอินเดียอัตรา 4-6  กก./ไร่  ไถกลบเมื่ออายุ 50-70  วัน  ปล่อยทิ้งไว้  1-2  สัปดาห์ )  หรือใส่ปุ๋ยคอก  อัตรา 2 – 3  กก./ไร่  ร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ  พด.2  หรือสูตรปุ๋ย 16-20-0 อัตรา  25 – 30 กก./ไร่  ในระยะปักดำ  และใส่ปุ๋ยยูเรีย  5 – 10 กก./ไร่  อีกครั้งหลังปักดำ  35-40 วัน  หรือระยะกำเนิดช่อดอก ในพื้นที่ที่เป็นกรดจัดมากควรไถคลุกเคล้าวัสดุปูน  200-300  กก./ไร่  เพื่อลดความเป็นกรดในดิน  และเพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในดิน พัฒนาแหล่งน้ำไว้ใช้ในช่วงที่ข้าวขาดน้ำหรือใช้ทำนาครั้งที่  2  หรือใช้ปลูกพืชไร่หรือพืชผักหลังเกี่ยวข้าว  โดยทำร่องแบบเตี้ย


การปลูกพืชไร่  พืชผัก  ไม้ผล  หรือไม้ยืนต้น
ปรับสภาพพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในฤดูฝนโดยการยกร่องแบบถาวร  ให้มีสันร่องกว้าง  6 – 8  เมตร  ตามชนิดพืชที่ปลูก  โดยให้สันร่องสูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมถึงหรือสร้างคันดินอัดแน่นล้อมรอบ  มีคูระบายน้ำกว้าง  1 – 1.5  เมตร  ลึก  0.5 – 1 เมตร  ( กรณีปลูกพืชไร่พืชผักเฉพาะช่วงก่อนหรือปลูกข้าว  ควรยกร่องแบบเตี้ยหรือทำร่องระบายน้ำระหว่างแปลง )  ปรับปรุงดินด้วยการไถกลบพืชปุ๋ยสด  ปอเทืองอัตรา 4 – 6 กก./ไร่  ถั่วพุ่มอัตรา  6 – 8 กก./ไร่  หรือถั่วพร้าอัตรา   8 – 10 กก./ไร่  ไถกลบเมื่ออายุ  50 – 70 วันหลังปลูกหรือออกดอก  50 เปอร์เซนต์  ปล่อยทิ้งไว้  1 – 2 สัปดาห์  หรือไถกลบปุ๋ยหมัก  หรือปุ๋ยคอกอัตรา  1 – 2  ตัน/ไร่  ถ้าปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้นพืช  ควรขุดหลุมปลูกขนาด   50x50x50  ซม.  และปรับปรุงหลุมปลูกด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา  15 – 25 กก./หลุม
ในพื้นที่ที่ดินเป็นกรดจัดมาก  ใช้วัสดุปูน  200-300  กก./ไร่  หรือ  0.5-1.0 กก./หลุม  เพื่อเพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในดิน ใส่ปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูก  ร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำพด.2  และผลิตภัณฑ์สารเร่ง  พด.3  พด.7  ร่วมกับการใช้วัสดุปูน  ถ้าดินเป็นกรดเพิ่มขึ้น พัฒนาแหล่งน้ำ  และระบบการให้น้ำในแปลงปลูกพืช  ไว้ใช้ในช่วงที่พืชขาดน้ำ 



 

     
   

 

 
     
  สถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรี
เลขที่ 43/12 หมู่ 8 ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี 22160
โทร 039-433713 แฟกซ์ 039-433714


     
             Copyright © 2017, Chanthaburi Development Station. LDD